เคยสงสัยใช่ไหมว่า ราคาบอล 1-1.5 คืออะไร ในบทความนี้เราจะมาอธิบายเกี่ยวกับ ราคาบอล 1-1.5 หรือที่นักแทงบอลหลายๆ คนอาจจะเรียกว่า ราคาบอลลูกควบลูกครึ่ง แต่สำหรับมือใหม่ที่จะเริ่มต้นแทงบอลหลายๆ คนอาจจะงงๆ หรือยังไม่เข้าใจเกี่ยวกับการแทงบอลด้วยอัตราต่อรองนี้ หรือยังสงสัยว่าหากคุณแทงทีมต่อ ทีมที่คุณแทงต้องยิงกี่ลูก หรือหากคุณแทงทีมรอง ทีมที่คุณแทงต้องยิงกี่ลูก ถึงผลการแทงของคุณจะออกมาชนะ และคุณจะได้เงินจากการแทงบอล วันนี้เรามีคำอธิบาย และเคสตัวอย่างการแข่งขัน จากนักแทงบอลออนไลน์มืออาชีพ ที่ทำให้การแทงบอลเป็นอาชีพสร้างรายได้หลัก
ความหมายของ ราคาบอล 1-1.5 คืออะไร
ความหมายของ แต้มต่อ 1-1.5 หรือ ราคาบอล 1-1.5 คืออะไร จริงๆ แล้วราคาบอลนี้หมายถึง รูปแบบราคาต่อรองที่สะท้อนถึงความต่างชั้นระหว่างทีมต่อ และทีมรอง ตัวอย่างเช่น หากทีมต่อมี ราคาบอล 1-1.5 และผลการแข่งขันจบด้วยทีมต่อชนะเพียงหนึ่งลูก เช่น 1-0 หรือ 2-1 ผู้ที่วางเดิมพันทีมต่อจะเสียเงินครึ่งหนึ่งของเงินเดิมพัน แต่หากทีมต่อสามารถชนะด้วยสกอร์มากกว่าหนึ่งลูก เช่น 2-0 หรือ 3-1 ผู้เดิมพันทีมต่อจะได้รับเงินเต็มจำนวน ในขณะเดียวกัน หากทีมรองแพ้เพียงลูกเดียว หรือสามารถยันเสมอได้ ผู้เดิมพันทีมรองจะได้รับเงินทันที
ตัวอย่างการแข่งขัน และการแทงบอล ในอัตราต่อรอง 1-1.5
สมมติการแข่งขันระหว่าง บาเยิร์น มิวนิค (ทีมต่อ) และ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ (ทีมรอง) โดยอัตราต่อรองกำหนดไว้ที่ 1-1.5 ลูก หรือ “ลูกควบลูกครึ่ง” การเดิมพันในราคานี้มีผลลัพธ์ได้หลายรูปแบบตามผลการแข่งขันที่เกิดขึ้นจริง
- กรณีแทงทีมต่อ (บาเยิร์น มิวนิค)
- หากผลการแข่งขัน บาเยิร์น มิวนิค ชนะ 2-0, 3-1 หรือมากกว่านี้
→ ผู้เดิมพันทีมต่อ ชนะเต็มจำนวน ได้รับเงินเดิมพันพร้อมกำไรเต็มที่ เพราะทีมต่อชนะเกิน 1.5 ลูก - หากผลการแข่งขัน บาเยิร์น มิวนิค ชนะ 1-0 หรือ 2-1
→ ผู้เดิมพันทีมต่อ เสียเงินครึ่งหนึ่ง เนื่องจากทีมต่อชนะเพียง 1 ลูก ไม่ถึงอัตราต่อรอง 1.5 - หากผลการแข่งขัน เสมอ หรือ ดอร์ทมุนด์ชนะ
→ ผู้เดิมพันทีมต่อ เสียเงินเต็มจำนวน เพราะทีมต่อไม่สามารถชนะได้ตามเงื่อนไข
- หากผลการแข่งขัน บาเยิร์น มิวนิค ชนะ 2-0, 3-1 หรือมากกว่านี้
- กรณีแทงทีมรอง (โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์)
- หากผลการแข่งขัน ดอร์ทมุนด์ เสมอ หรือ ชนะ (เช่น 1-1 หรือ 2-1)
→ ผู้เดิมพันทีมรอง ชนะเต็มจำนวน ได้รับเงินเดิมพันพร้อมกำไรเต็มที่ - หากผลการแข่งขัน ดอร์ทมุนด์ แพ้ 1 ลูก (เช่น 1-0 หรือ 2-1)
→ ผู้เดิมพันทีมรอง ชนะครึ่งหนึ่ง ได้เงินรางวัลครึ่งเดียว เนื่องจากแพ้ไม่เกิน 1 ลูก - หากผลการแข่งขัน ดอร์ทมุนด์ แพ้ 2-0 หรือมากกว่านี้
→ ผู้เดิมพันทีมรอง เสียเงินเต็มจำนวน เพราะแพ้เกิน 1.5 ลูก
- หากผลการแข่งขัน ดอร์ทมุนด์ เสมอ หรือ ชนะ (เช่น 1-1 หรือ 2-1)
วิเคราะห์ความเสี่ยงในการแทงบอลราคาบอล 1-1.5 (ลูกควบลูกครึ่ง)
เมื่อวิเคราะห์ ราคาบอล 1-1.5 จากมุมมองเชิงคณิตศาสตร์โดยไม่พิจารณาปัจจัยภายนอก เช่น ฟอร์มการเล่น หรือปัจจัยสนาม เราสามารถแยกความเสี่ยง และผลตอบแทนออกเป็นสองฝั่ง ทีมต่อ และทีมรอง โดยพิจารณาจากความน่าจะเป็นในแต่ละกรณี
ฝั่งทีมต่อ
โอกาสได้เต็ม:
- ทีมต่อจะต้องชนะ มากกว่า 1.5 ลูก (เช่น ชนะ 2-0, 3-1) เพื่อให้ได้กำไรเต็ม ซึ่งตามความน่าจะเป็นถือว่ามีความเสี่ยงสูง เพราะต้องทำสกอร์ที่ต่างอย่างน้อย 2 ลูก
โอกาสเสียครึ่ง:
- หากทีมต่อชนะเพียง 1 ลูก (เช่น 1-0, 2-1) ผู้เดิมพันเสียครึ่งหนึ่งของเงินเดิมพัน ซึ่งเป็นสถานการณ์ที่พบได้บ่อย เนื่องจากส่วนใหญ่ทีมต่อมักชนะเพียง 1 ลูก
โอกาสเสียเต็ม:
- หากทีมต่อเสมอ หรือแพ้ จะเสียเงินเต็มจำนวน ซึ่งถือเป็นความเสี่ยงสำคัญของฝั่งทีมต่อ
บทสรุปฝั่งทีมต่อ:
- ทีมต่อมีความเสี่ยงสูง เนื่องจากต้องชนะด้วยผลต่าง 2 ลูกขึ้นไปจึงจะได้เต็มจำนวน แต่มีโอกาสเสียครึ่งหากชนะเพียงลูกเดียว
ฝั่งทีมรอง
โอกาสได้เต็ม:
- ทีมรองจะได้เงินเต็มในกรณีที่ผลการแข่งขัน เสมอ หรือ ชนะ ซึ่งมีความเป็นไปได้มากขึ้นเมื่อทีมรองเล่นเกมรับที่แข็งแกร่ง หรือทีมต่อไม่สามารถทำสกอร์ได้ตามที่คาด
โอกาสได้ครึ่ง:
- ทีมรองจะได้เงินครึ่งหนึ่ง หากแพ้เพียง 1 ลูก (เช่น 1-0, 2-1) ซึ่งเป็นผลการแข่งขันที่เกิดขึ้นบ่อยในสถานการณ์นี้
โอกาสเสียเต็ม:
- ทีมรองจะเสียเงินเต็มจำนวน หากแพ้ด้วยผลต่าง 2 ลูกขึ้นไป (เช่น 2-0, 3-1) ซึ่งเป็นความเสี่ยงหลักของทีมรอง แต่ยังเกิดได้ในกรณีที่ทีมต่อมีศักยภาพสูงมาก
บทสรุปฝั่งทีมรอง:
- ทีมรองมีความเสี่ยงต่ำกว่า เพราะมีโอกาสได้เงินเต็มจำนวนหรือครึ่งหนึ่ง แม้จะแพ้ แต่ต้องไม่เกิน 1 ลูก